ทำอย่างไร จึงจะได้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 2 3

ทำอย่างไร จึงจะได้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 2 3
ทุกท่านที่ทำประกันภัยรถยนต์ ไม่ว่าประกัน ชั้น 1  ชั้น 2 ชั้น 3 ล้วนจะอยากได้เบี้ยประกันถูกๆ
1. ส่วนลดประวัติดี
จะได้รับส่วนลดประวัติดี ตามลำดับขั้นในแต่ละปี สูงสุดถึง 50% ของเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ
ขั้นที่ 1 (ปีแรก) รับส่วนลด 20%
ขั้นที่ 2 (ปีสอง) รับส่วนลด 30%
ขั้นที่ 3 (ปีสาม) รับส่วนลด 40%
ขั้นที่ 4 (ปีสี่ขึ้นไป)รับส่วนลด 50%
เนื่อง จากในรอบปี หากเราไม่มีเคลมเลย เราจะได้ส่วนลดประวัติดี ไม่น้อยกว่า 20 %  ยิ่งถ้าไม่ได้เคลมหลายปีก็จะยิ่งมีส่วนลดเยอะขึ้น แต่สูงสุดไม่เกิน 50 %  เช่น
ปีแรก เบี้ย  15,000 บาท ปีต่อไป ไม่มีเคลม ส่วนลด 20 % คือ 3,000 บาท  เบี้ยจะเหลือ 15,000-3,000 = 12,000 บาท
ดัง นั้น หากจะเคลมก็ต้องคิดดีๆ ถ้าเป็นแค่รอยสีถลอก หรือเราอยากเคลมแค่เล็กๆน้อยๆ ลองเอารถไปให้อู่ ตีราคาซ่อมดู แล้วลองมาคำนวณ เทียบราคากับเบี้ยประกันในปีถัดไป (ลองเทียบกับส่วนลด 20 %)
2. ระบุชื่อผู้ขับขี่
หาก เราต้องการส่วนลด มากขึ้นก็จำเป็นต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ ซึ่งเราจะระบุได้ประมาณ 2 ชื่อ แต่เราต้องพิจารณาให้ดี เพราะหมายความว่ารถคันที่เอาประกันภัยรถยนต์ จะให้ผู้อื่นนำไปขับแล้วเกิดอุบัติเหตุ เราจะไม่สามารถเอาไปเคลมประกันได้ บริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบ
หากระบุชื่อผู้ขับขี่ อายุของผู้ขับขี่ก็จะมีผลต่อส่วนลดด้วยเช่น
ช่วงอายุ 18 – 24 ปี ส่วนลด 5%
ช่วงอายุ 25 – 35 ปี ส่วนลด 10%
ช่วงอายุ 36 – 50 ปี ส่วนลด 15%
ช่วงอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ส่วนลด 20%
3. เลือกซ่อมอู่
การ เลือกซ่อมอู่กับซ่อมห้าง มีส่วนต่างมากทีเดียวประมาณ 1000-3000 บาท  หากเรารู้จักอู่ที่มีมาตรฐานดี หรือมีคุณภาพในการซ่อม และทำให้จ่ายเบี้ยประกันภัยลดลงอีกด้วย เราก็ควรเลือกซ่อมอู่ จะประหยัดเงินลงได้เยอะทีเดียว
ซ่อมห้าง หมายถึง ซ่อมกับศูนย์บริการ ของบริษัทรถยนต์ เช่น ศูนย์บริการของ TOYOTA  HONDA  MAZDA
4. เลือกทุนประกัน
ทราบ หรือไม่ว่าทุนประกันจะลดลงทุกๆปี ตามมูลค่ารถที่สึกหรอ ดังนั้น เมื่อทุนประกันลดลง เบี้ยประกันย่อมต้องลดลงตามทุนประกันด้วยเช่นกัน และเช่นกันหากเราอยากได้ส่วนลด เพิ่มมากขึ้น เราสามารถ ลดทุนประกันได้เช่น
บริษัท ประกันหรือตัวแทนประกันภัยรถยนต์ เสนอ ทุนประกันที่ 350,000   เราก็อาจจะปรับทุนประกันลงเป็น 300,000 ได้ โดยบริษัทประกันภัยรถยนต์จะต้องลดเบี้ยประกันภัย ลงตามทุนประกันด้วย
5. ส่วนลดจากค่าคอม ฯ ของ ตัวแทน/นายหน้า
หาก ตัวแทน/นายหน้า เป็นคนรู้จัก เพื่อน  ญาติ เราก็อาจขอส่วนลด ส่วนนี้จากเขาได้ แต่ถ้าเป็นพวก โบรกเกอร์ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ส่วนลดในส่วนนี้
ทั้งนี้ทั้งนั้น จากที่กล่าวมาก็จะขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรอง หรือความรู้ของผู้เอาประกันที่จะต้องรู้ทัน เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเจรจาต่อรอง อย่าให้ ตัวแทน/นายหน้า/โบรกเกอร์/บริษัทประกันภัย เอาเปรียบเราได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น